2012 ©
             ข้อมูลการเผยแพร่ผลงาน
การเผยแพร่ในรูปของบทความวารสารทางวิชาการ
ชื่อบทความ ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและการรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัย ต่อการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลชุมชน เขตบริการสุขภาพที่ 9  
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ 9 สิงหาคม 2559 
วารสาร
     ชื่อวารสาร วารสารวิจัยเเละพัฒนาระบบสุขภาพ 
     มาตรฐานของวารสาร TCI 
     หน่วยงานเจ้าของวารสาร กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ 
     ISBN/ISSN  
     ปีที่ 10 
     ฉบับที่
     เดือน มกราคม-เมษายน
     ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ 2560 
     หน้า  
     บทคัดย่อ การวิจัยเชิงสำรวจแบบการศึกษาเชิงพยากรณ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์และอิทธิพลของปัจจัยส่วนบุคคล และการรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัยต่อการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง เขตบริการสุขภาพที่ 9 ที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จำนวน 210 คน ทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัยและการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐาน ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา และหาค่าความเที่ยง ได้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.91 และ 0.89 ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ ได้แบบสอบถามที่สมบูรณ์กลับคืนมา 198 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 94.28 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ ผลการศึกษาพบว่า 1. พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชน เขตบริการสุขภาพที่ 9 มีระดับการรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัย และการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐาน อยู่ในระดับสูง ( =3.75, 4.43) ตามลำดับ 2. ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐาน ของพยาบาลวิชาชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ ประสบการณ์การเป็นคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล ประสบการณ์การอบรมด้านการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล และประสบการณ์การทำงาน (r=0.23, 0.21, 0.18) ตามลำดับ โดยทุกตัวมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำ 3. การรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัย ด้านที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐาน ของพยาบาลวิชาชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ พฤติกรรมการเรียนรู้ด้านความปลอดภัย และการรับรู้สภาวะความปลอดภัยในองค์กร (r=0.18, 0.17) ตามลำดับ โดยทุกตัวมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำ 4. ตัวแปรที่สามารถร่วมกันอธิบายการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานของพยาบาลวิชาชีพ ได้แก่ ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ประสบการณ์การอบรมด้านการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล ประสบการณ์การเป็นคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล การรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัยด้านผู้บริหารมีการส่งเสริมความปลอดภัย ด้านการรับรู้สภาวะความปลอดภัยในองค์กร ด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ความปลอดภัย และด้านวัฒนธรรมในการเรียนรู้ โดยสามารถร่วมกันอธิบายการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานของพยาบาลวิชาชีพ ได้ร้อยละ 15.10 (R2=.151) โดยพบว่ามี 2 ตัวแปร ที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐานของพยาบาลวิชาชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ การรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัย ด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ความปลอดภัย และประสบการณ์ในการเป็นคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล (Beta=0.234, 0.160) ตามลำดับ  
     คำสำคัญ การรับรู้วัฒนธรรมความปลอดภัย, การปฏิบัติในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบบมาตรฐาน 
ผู้เขียน
565060102-2 นาย สุธีร์ จำลองชาติ [ผู้เขียนหลัก]
คณะพยาบาลศาสตร์ ปริญญาโท โครงการพิเศษ

การประเมินบทความ มีผู้ประเมินอิสระ 
สถานภาพการเผยแพร่ ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ 
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ ชาติ 
citation มี 
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ เป็น 
แนบไฟล์
Citation 0