ชื่อบทความ |
ปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ |
17 กันยายน 2561 |
วารสาร |
ชื่อวารสาร |
วารสารวิจัย มข. (ฉบับบัณฑิตศึกษา) สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ื |
มาตรฐานของวารสาร |
|
หน่วยงานเจ้าของวารสาร |
วารสารวิจัย มข.(ฉบับบัณฑิตศึกษา) สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ื |
ISBN/ISSN |
2286-7910 |
ปีที่ |
7 |
ฉบับที่ |
2 |
เดือน |
พฤษภาคม-สิงหาคม |
ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ |
2561 |
หน้า |
|
บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงระดับความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน โดยใช้วิธีวิจัยเชิงผสม (Mixed Methods Research) การเก็บข้อมูลใช้วิธีการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารและแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลจำนวน10 คน และใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างคือแพทย์ 155 คน ข้อมูลจากแบบสอบถามนำมาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติพื้นฐาน และเปรียบเทียบระดับความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ ด้วยสถิติ t-test และ F-test และวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน โดยหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Pearson Product Moment Correlation Coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า โรงพยาบาลเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ลักษณะการบริหารโรงพยาบาล ประกอบด้วยผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าแผนกต่างๆ ส่วนใหญ่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลรักษาคนไข้พื้นฐานเท่านั้น และสัดส่วนของแพทย์บางเวลามากกว่าแพทย์เต็มเวลา
ความผูกพันของแพทย์ต่อโรงพยาบาลเอกชนในด้านพฤติกรรมการปฏิบัติงาน พบว่า แพทย์ส่วนใหญ่ใช้ความรู้ความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่ในระดับมากที่สุด ระดับความผูกพันอื่นๆอยู่ในระดับมาก ส่วนระดับความผูกพันของแพทย์ต่อโรงพยาบาลเอกชนในด้านทัศนคติ พบว่า อยู่ในระดับมากทั้งหมด
ในการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันของแพทย์ต่อโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งประกอบด้วย 3 ด้านคือปัจจัยด้านลักษณะงาน ด้านลักษณะองค์กร และด้านลักษณะประสบการณ์ทำงาน และปัจจัยย่อยทั้งหมด 15 ปัจจัย ผลจากวิเคราะห์พบว่า ทั้ง 3 ด้านมีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 สำหรับปัจจัยย่อยทั้ง 15 ปัจจัยมีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ระดับความสัมพันธ์ต่างกัน โดยมี 3 ปัจจัยย่อยที่มีความสัมพันธ์ในระดับสูง คือ 1)โรงพยาบาลมีเครื่องมือที่ทำให้เกิดความชำนาญ 2) การได้รับโอกาสความก้าวหน้าในการทำงาน 3) ที่ตั้งโรงพยาบาลอยู่ใกล้บ้าน
แนวทางการสร้างความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์ คือ โรงพยาบาลควรมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องความผูกพันต่อองค์กรของแพทย์โดยเฉพาะ ควรทำโครงการสร้างความเชี่ยวชาญด้วยการส่งแพทย์ไปศึกษาและอบรมต่อเนื่องในสาขาวิชาที่แพทย์แต่ละคนถนัด ควรมีเครื่องมือที่ทันสมัย เหมาะกับความเชี่ยวชาญของแพทย์ อีกทั้งควรสร้างแผนและเส้นทางความก้าวหน้าให้แพทย์
|
คำสำคัญ |
ความผูกพันต่อองค์กร, โรงพยาบาลเอกชน, แพทย์ |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ |
ไม่มีผู้ประเมินอิสระ |
สถานภาพการเผยแพร่ |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
citation |
ไม่มี |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|