ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
การพัฒนาแบบทดสอบวินิจฉัยความสามารถในการสื่อสารภาษาญี่ปุ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
14 มิถุนายน 2562 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
การประชุมวิชาการ เสนอผลงานวิจัย ระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 ระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 9 “นวัตกรรมและการสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร |
สถานที่จัดประชุม |
ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ 6 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม |
จังหวัด/รัฐ |
นครปฐม |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
13 มิถุนายน 2562 |
ถึง |
14 มิถุนายน 2562 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
48 |
Issue (เล่มที่) |
48 |
หน้าที่พิมพ์ |
H528-H536 |
Editors/edition/publisher |
|
บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาคุณภาพแบบทดสอบวินิจฉัยความสามารถในการสื่อสารภาษาญี่ปุ่น สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบโดยประยุกต์ใช้โมเดลดีไอเอ็นเอ แบ่งวิธีดำเนินการวิจัยออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการสร้างแบบทดสอบ ด้วยการกำหนดโมเดลพุทธิปัญญาและตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมด้วยผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นสร้างแบบทดสอบตามแผนผังการออกข้อสอบจากโมเดลพุทธิปัญญาที่กำหนดขึ้น นำไปทดลองใช้กับนักเรียนในเขตพื้นที่มัธยมศึกษา เขต 21 จำนวน 6 โรงเรียน นักเรียนจำนวน 12 คนเพื่อระบุความบกพร่อง ระยะที่ 2 เป็นการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบด้วยการนำแบบทดสอบที่พัฒนาขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาและทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบรายข้อด้วยโมเดลดีไอเอ็นเอ และตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบทั้งฉบับ ประกอบด้วย ความเที่ยง (Reliability) ความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) และความตรงตามสภาพ (Concurrent Validity) กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 177 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือในการวิจัยนี้คือ แบบทดสอบวินิจฉัยความสามารถในการสื่อสารภาษาญี่ปุ่น สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. การกำหนดโมเดลพุทธิปัญญาระบุคุณลักษณะที่ต้องการวินิจฉัยสำคัญ 4 คุณลักษณะ จากนั้นกำหนดแผนผังการออกข้อสอบ (Q – matrix) และสร้างข้อสอบตามแผนผังการออกข้อสอบ (Q – matrix) ซึ่งเป็นการตอบคำถาม ถ้าตอบถูกได้ 1 คะแนน แต่ถ้าตอบผิดแม้แต่คำตอบเดียวในแต่ละข้อได้ 0 คะแนน
ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยใช้ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม(CTT) ได้แก่ ค่าความยาก(p) ระหว่าง 0.17-0.92 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.08 – 0.42 มีค่าความเที่ยงด้วยการคำนวณจากวิธีคูเดอร์-ริชาร์ดสัน (KR20) ได้ 0.867
2. การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบรายข้อ มีค่าพารามิเตอร์การเดาข้อสอบถูก (c_j) อยู่ระหว่าง 0.01 – 0.05 ค่าพารามิเตอร์ความสะเพร่า(s_j) อยู่ระหว่าง 0.02 – 0.17 และดัชนีอำนาจจำแนกรายข้อ (Item Discrimination Index) อยู่ระหว่าง 0.26 – 0.75 ในส่วนของการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบทั้งฉบับ มีค่าความเที่ยงด้วยการคำนวณจากวิธีของลิวิงตัน (Livingston Method) เท่ากับ 0.986
|
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Oral |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|