ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
ผลของการใช้สารสกัดขมิ้นชันรูปแบบเจลและแสงสีฟ้าในกระบวนการบําบัด โฟโตไดนามิกร่วมกับ การรักษาโรคปริทันต์อักเสบเรื้อรังแบบอนุรักษ์ต่อการต้านเชื้อพรีโวเทลลา อินเตอร์มีเดีย และเชื้อฟิวโซแบคทีเรียม นิวคลีเอตัม |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
7 ธันวาคม 2562 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
การประชุมวิชาการและนําเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 15 “บูรณาการงานวิจัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรม” |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
สํานักวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น |
สถานที่จัดประชุม |
อาคารคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น |
จังหวัด/รัฐ |
ปทุมธานี |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
7 ธันวาคม 2562 |
ถึง |
8 ธันวาคม 2562 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
15 |
Issue (เล่มที่) |
- |
หน้าที่พิมพ์ |
12-22 |
Editors/edition/publisher |
|
บทคัดย่อ |
โรคปริทันต์อักเสบเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ส่งผลให้เกิดการทำลายอวัยวะปริทันต์ การรักษาโรคปริทันต์แบบอนุรักษ์ คือการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟัน ซึ่งมีข้อจำกัดในการรักษาบริเวณร่องลึกปริทันต์ อีกทั้งไม่สามารถกำจัดเชื้อก่อโรคที่แทรกตัวเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่อเหงือกได้ ในปัจจุบันได้มีการนำกระบวนการบำบัดโฟโตไดนามิกมาใช้เพื่อกําจัดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในร่องเหงือกร่วมกับการรักษาแบบอนุรักษ์ การศึกษานี้ทำเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของการรักษาด้วยกระบวนการบำบัดโฟโตไดนามิกในการรักษาโรคปริทันต์ โดยศึกษาในอาสาสมัคร 5 คน ที่เป็นโรคปริทันต์อักเสบและมีร่องลึกปริทันต์ ≥ 4 มิลลิเมตร อย่างน้อย 2 ตำแหน่ง ในฟันหลังบนทั้ง 2 ด้าน กลุ่มควบคุม คือ กลุ่มที่ได้รับการรักษาโรคปริทันต์แบบอนุรักษ์ และกลุ่มทดลอง คือ กลุ่มที่ได้รับการรักษาโรคปริทันต์แบบอนุรักษ์ร่วมกับกระบวนการบำบัด โฟโตไดนามิกที่มีขมิ้นชันรูปแบบเจลความเข้มข้น 25 ไมโครกรัมต่อมิลลิกรัม กระตุ้นด้วยแสงสีฟ้าจากเครื่องฉายแสงทางทันตกรรมที่ค่าพลังงาน 16.8 จูลต่อตารางเซนติเมตร เป็นเวลา 120 วินาที ติดตามผลการรักษาในสัปดาห์ที่ 1 2 4 และ 6 หลังการรักษา โดยวัดค่าทางคลินิก(ความลึกของร่องลึกปริทันต์ ระดับการยึดเกาะอวัยวะปริทันต์ ค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์ และดัชนีการเลือดออกของเหงือก) และวัดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย F. nucleatum และ P. intermedia ด้วยวิธี real time PCR เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง ผลการศึกษาพบว่าเมื่อสิ้นสุดการศึกษาไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ของการรักษาด้วยกระบวนการบำบัดโฟโตไดนามิกในอาสาสมัครกลุ่มทดลอง ค่าเฉลี่ยปริมาณของเชื้อแบคทีเรียหลังการรักษาในทุก ๆ ช่วงเวลามีปริมาณน้อยกว่าก่อนการรักษา ส่วนค่าทางคลินิกพบว่ามีเพียงกลุ่มทดลองที่มีค่าร่องลึกปริทันต์ ระดับการยึดเกาะอวัยวะปริทันต์ และค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์ ในสัปดาห์ที่ 1 และ 2 หลังการรักษาของกลุ่มทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับก่อนรักษา สรุปว่าการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันร่วมกับกระบวนการบำบัดโฟโตไดนามิกสามารถลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียในร่องเหงือกได้ดีกว่าการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันเพียงอย่างเดียว
|
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Oral |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
11
|
|