ชื่อบทความ |
แนวทางการส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1
GUIDELINES FOR PROMOTING THE NEW NORMAL PROFESSIONAL LEARNING COMMUNITIES IN SCHOOLS UNDER NONG KHAI
PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA 1
|
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ |
22 กรกฎาคม 2565 |
วารสาร |
ชื่อวารสาร |
วารสารบัณฑิตสาเกตปริทรรศน์ |
มาตรฐานของวารสาร |
TCI |
หน่วยงานเจ้าของวารสาร |
วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
ISBN/ISSN |
- |
ปีที่ |
ปีที่8 |
ฉบับที่ |
ฉบับที่ 1 |
เดือน |
เดือน มกราคม - มิถุนายน |
ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ |
2566 |
หน้า |
- |
บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 2) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 302 คน โดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิตามขนาดโรงเรียน และกำหนดสัดส่วนแล้วนำมาสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความตรงอยู่ระหว่าง 0.60 - 1.00 และ มีค่าความเชื่อมั่น 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
การวิเคราะห์ค่าดัชนีความต้องการจำเป็นจากสูตร (PNI Modifed) และจัดลำดับความต้องการจำเป็น ระยะที่ 2 การศึกษาแนวทางการส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษา โดยใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างกับผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 คน การวิเคราะข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา และนำเสนอโดยการพรรณา
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยรายด้านพบว่า การทำงานร่วมกันเป็นทีม มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด และการมีวิสัยทัศน์ร่วมวิถีใหม่ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด สภาพที่พึงประสงค์ของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากมากที่สุด เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยรายข้อพบว่า การทำงานร่วมกันเป็นทีม มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด และการมีวิสัยทัศน์ร่วมวิถีใหม่ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด โดยค่าดัชนีความต้องการจำเป็นในการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษา พบว่า ลำดับความต้องการจำเป็นสูงสุดคือการทำงานร่วมกันเป็นทีม(PNIModified = 0.084) และต่ำสุด คือการมีวิสัยทัศน์ร่วมวิถีใหม่ (PNIModified= 0.100)
2. แนวทางส่งเสริมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพวิถีใหม่ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 พบว่า 1) ด้านการมีวิสัยทัศน์ร่วมวิถีใหม่ สถานศึกษาและครูร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมวิถีใหม่ และค่านิยมร่วมที่สอดคล้องกับวิถี New Normal มุ่งเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 2) ภาวะผู้นำร่วม แต่งตั้งครูแกนนำ (Master Teacher) เป็นหัวหน้าทีมในการพัฒนาซึ่งกันและกัน และหมุนเวียนกันเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งจะทำให้ครูทุกคนมีโอกาสได้พัฒนาภาวะผู้นำตนเองในกระบวนการ PLC 3) ชุมชนกัลยาณมิตร สร้างชุมชนวิชาชีพภายใต้ระบบการนิเทศ เพื่อช่วยเหลือและให้ข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับการสอนแก่เพื่อนครูด้วยความจริงใจมีความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน รวมทั้งสนับสนุนให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียนจากผลของการพัฒนาร่วมกันสู่ความเป็นครูมืออาชีพ 4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และประยุกต์ใช้ ผู้บริหารส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ Big Data และการสื่อสาร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ครูในการเข้าถึงข้อมูล 5) การทำงานร่วมกันเป็นทีม จัดตั้งครูแกนนำของทีมเน้นการกระจายอำนาจ ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกแก่ครูในการปฏิบัติงานการกระตุ้น และส่งเสริมสมาชิกในทีมให้เกิดพลังในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
|
คำสำคัญ |
ความต้องการจำเป็น, ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ,วิถีใหม่, สถานศึกษา |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ |
มีผู้ประเมินอิสระ |
สถานภาพการเผยแพร่ |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
citation |
มี |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|