ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
การศึกษาแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์วัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง วัดสะแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ของนักสำรวจชาวฝรั่งเศศ เอเจียน แอมมอนิเย ช่วงปี ค.ศ.1858-1897 |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
1 กันยายน 2566 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
ทักษะ ศิลปะ ปรัชญา แห่งอุษาคเนย์ |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
คณะศิลปกรรมศาสตร์ |
สถานที่จัดประชุม |
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
จังหวัด/รัฐ |
ขอนแก่น |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
1 กันยายน 2566 |
ถึง |
2 กันยายน 2566 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
2566 |
Issue (เล่มที่) |
1 |
หน้าที่พิมพ์ |
1211-1225 |
Editors/edition/publisher |
|
บทคัดย่อ |
บทความการศึกษาแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์วัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานีของนักสำรวจชาวฝรั่งเศส เอเจียน แอมมอนิเย ช่วงปี ค.ศ.1858-1897 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม โบราณสถานและโบราณวัตถุ วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จากบันทึกการเดินทางของเอเจียน แอมมอนิเย
ผลจากการศึกษาพบว่า
มีศาสนสถาน โบราณวัตถุ ที่มีการออกแบบลักษณะศิลปกรรมที่มีคติความเชื่อ ออกเป็น 2 ยุคสมัย คือศิลปกรรมทวารวดี ได้แก่ ใบเสมา และศิลปกรรมขอม ได้แก่ ซากปราสาทหิน ฐานศิวลึงค์ แผ่นศิลาจารึก เทวรูปพระพือ และทับหลังศิลปะไพรเกมง สภาพสภาพปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม วัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี สภาพเส้นทางเดินทางถึงแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางคมนาคมมีระบบขนส่งที่ค่อนข้างสะดวกสบาย การจัดการพื้นที่ท่องเที่ยววัดได้ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณวัดร่มรื่น การบริการการท่องเที่ยว มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ในการสื่อสารความหมายของแหล่งท่องเที่ยว การจัดทำเอกสารเพื่อเผยแพร่ กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว มีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในด้านการพัฒนาและจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยววัดและชุมชน การจัดโปรแกรมเส้นทางการท่องเที่ยวมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและช่องทางต่าง ๆ ส่วนแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควรมีแผนการจัดเตรียมโปรแกรมการท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้าที่สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว การท่องเที่ยวประวัติศาสตร์วัฒนธรรม นักศึกษา นักวิจัย และนักสำรวจที่มีความสนใจเฉพาะกลุ่มที่เดินทางมาศึกษาเรียนรู้หลักฐานทางโบราณคดีที่เก็บรักษาไว้ที่วัด และควรสร้างโปรแกรมนำเที่ยวแบบเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่จะเพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยวได้ |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Poster |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ใช้สำหรับสำเร็จการศึกษา |
ไม่เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|