| Research Title |
การพัฒนาและศึกษาความเป็นไปได้ของแนวปฏิบัติทางการพยาบาลในคลินิกเพื่อป้องกันการช่วยหายใจแบบไม่ใส่ท่อล้มเหลวในระยะแรกในผู้ป่วยหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน |
| Date of Distribution |
6 February 2024 |
| Conference |
| Title of the Conference |
เทคโนโลยีทางสุขภาพและนวัตกรรมทางการพยาบาล: แนวโน้มใหม่ในการดูแลภาวะฉุกเฉินบาดเจ็บและวิกฤต |
| Organiser |
ศูนย์วิจัยระบบป้องกันและดูแลผู้บาดเจ็บและฉุกเฉิน คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
| Conference Place |
โรงแรมคริสตัลหาดใหญ่ |
| Province/State |
จังหวัดสงขลา |
| Conference Date |
13 November 2023 |
| To |
14 November 2023 |
| Proceeding Paper |
| Volume |
2567 |
| Issue |
3 |
| Page |
141-150 |
| Editors/edition/publisher |
|
| Abstract |
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาและศึกษาความเป็นไปได้ของแนวปฏิบัติทางการพยาบาลบนคลินิก (CNPG) เพื่อป้องกันการช่วยหายใจแบบไม่ใส่ท่อล้มเหลวในระยะแรกในผู้ป่วยหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
วิธีการ: รูปแบบการปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ของไอโววา (IOWA model) ในการพัฒนาแนวปฏิบัติฯ ประเมินคุณภาพโดยการตรวจสอบดัชนีความตรงเชิงเนื้อหา (CVI) และแบบประเมินคุณภาพแนวปฏิบัติสำหรับการวิจัยและการประเมินผล (AGREE II) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน นำแนวปฏิบัติฯ ไปทดลองใช้ ประเมินความเป็นไปได้ในผู้ป่วยและพยาบาลวิชาชีพ จากการใช้แนวปฏิบัติจำนวนกลุ่มละ 5 ราย
ผลการศึกษา: จากการทบทวนและสังเคราะห์งานวิจัยจำนวน 23 เรื่อง แบ่งเป็น ระดับ 1a 4 เรื่อง, 1c 9 เรื่อง, 2a 2 เรื่อง, 3b 6 เรื่อง, 3c 1 เรื่อง และ 4b 1 เรื่อง (JBI, 2014) สร้างแนวปฏิบัติฯ ซึ่งมี 3 ขั้นตอน ได้แก่ คือ 1) การเตรียมก่อนใส่ NIV มีความตรงเชิงเนื้อหา (CVI=0.94) 2) การดูแลขณะใส่ NIV ระยะเวลา 48 ชั่วโมงแรก มีความตรงเชิงเนื้อหา (CVI = 1.0) และ3) ระยะหย่า NIV มีค่าความตรงเชิงเนื้อหา (CVI = 1.0) แนวปฏิบัติฯ มีคะแนน AGREE II ร้อยละ 82.92-86.66 ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ท่านแนะนำให้ใช้แนวปฏิบัติฯ นี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลันที่ได้รับการใส่ NIV ผลจากการศึกษาความเป็นไปได้ พบว่า ผู้ป่วยทั้ง 5 ราย เป็นเพศชายร้อยละ 80 อายุเฉลี่ย 81.6 ปี (SD=12.42) จัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยความเสี่ยงต่ำร้อยละ 80 มีคะแนน NIV failure score เฉลี่ย 6.00 คะแนน (SD= 3.31) มีโรคร่วมมากกว่า 2 โรค ไม่เกิดความล้มเหลวในการช่วยหายใจแบบไม่ใส่ท่อในระยะ 48 ชั่วโมงแรก มีค่าเฉลี่ยของระดับการแลกเปลี่ยนแก๊ส (SpO2/FiO2 ratio) ในชั่วโมงที่ 1 และ 24 = 162.50±21.50 และ 322.35±36.47 ตามลำดับ
สรุป: แนวปฏิบัติฯ ที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพที่น่าพึงพอใจ มีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้เพื่อป้องกันการช่วยหายใจแบบไม่ใส่ท่อล้มเหลวในระยะแรกในผู้ป่วยหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน นอกจากนี้ควรศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อทดสอบประสิทธิผลของแนวปฏิบัติต่อไป
|
| Author |
|
| Peer Review Status |
มีผู้ประเมินอิสระ |
| Level of Conference |
ชาติ |
| Type of Proceeding |
Full paper |
| Type of Presentation |
Oral |
| Part of thesis |
true |
| ใช้สำหรับสำเร็จการศึกษา |
ไม่เป็น |
| Presentation awarding |
false |
| Attach file |
|
| Citation |
0
|
|
|