Research Title |
การตรวจพิสูจน์เส้นขนเสือชนิดที่พบในประเทศไทยด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Identification of Tigers Hairs in Thailand using Microscopy)
|
Date of Distribution |
31 May 2019 |
Conference |
Title of the Conference |
ราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 4 "การวิจัยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" |
Organiser |
มหาวิทยาลัยราชธานี |
Conference Place |
มหาวิทยาลัยราชธานี |
Province/State |
อุบลราชธานี |
Conference Date |
31 May 2019 |
To |
31 May 2019 |
Proceeding Paper |
Volume |
4 |
Issue |
1 |
Page |
47-54 |
Editors/edition/publisher |
|
Abstract |
การตรวจพิสูจน์เส้นขนเป็นหนึ่งในวิธีการสำคัญเพื่อจำแนกชนิดของสิ่งมีชีวิตในทางนิติวิทยาศาสตร์ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเส้นขนเสือ เพื่อใช้ในการจำแนกเสือ 8 ชนิดที่พบในประเทศไทย ได้แก่ แมวป่า แมวดาว แมวป่าหัวแบน เสือปลา เสือไฟ เสือลายเมฆ เสือดาว/เสือดำ และเสือโคร่ง ดำเนินการศึกษาโดยใช้ตัวอย่างเส้นขนจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวและสวนสัตว์สงขลา จากการวิเคราะห์ตัวอย่างเส้นขนด้วยกล้องจุลทรรศน์ แสดงให้เห็นว่าเสือโคร่งมีเส้นขนยาวที่สุดคือ 3.94 ± 0.27 เซนติเมตร ในขณะที่เสือไฟมีเส้นขนสั้นที่สุดคือ 1.02 ± 0.08 เซนติเมตร เสือปลา เสือไฟ เสือดาว/เสือดำ และเสือโคร่งมีชั้นเมดัลล่าแบบ Continuous, แมวป่าเป็นแบบ Continuous เช่นกันแต่มีฟองอากาศแทรก, แมวดาวและแมวป่าหัวแบนเป็นแบบ Lattice และเสือลายเมฆเป็นแบบ Ladder และยังพบว่าเสือไฟมีค่าดัชนีเมดัลล่าสูงที่สุดคือ 0.80 ± 0.02 และเสือโคร่งมีค่าดัชนีเมดัลล่าต่ำที่สุดคือ 0.46 ± 0.15 ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุปได้ว่าความยาวเส้นขน รูปแบบชั้นเมดัลล่า และค่าดัชนีเมดัลล่า สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการจำแนกชนิดของเสือ อีกทั้งการศึกษาเหล่านี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างฐานข้อมูลและสนับสนุนในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการล่า การลักลอบ หรือครอบครองเสืออย่างผิดกฎหมายต่อไปได้ |
Author |
|
Peer Review Status |
มีผู้ประเมินอิสระ |
Level of Conference |
ชาติ |
Type of Proceeding |
Full paper |
Type of Presentation |
Oral |
Part of thesis |
true |
Presentation awarding |
false |
Attach file |
|
Citation |
0
|
|