ชื่อบทความ |
ความต้องการจำเป็นของการบริหารจัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สู่ความเป็นเลิศ |
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ |
15 มีนาคม 2564 |
วารสาร |
ชื่อวารสาร |
วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (Journal of Educational Measurement Mahasarakham University : JEM-MSU) |
มาตรฐานของวารสาร |
TCI |
หน่วยงานเจ้าของวารสาร |
ภาควิชาวิจัยและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม |
ISBN/ISSN |
|
ปีที่ |
28 |
ฉบับที่ |
1 |
เดือน |
มกราคม-มิถุนายน |
ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ |
2564 |
หน้า |
|
บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ของโรงเรียน พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา (2) ความต้องการจำเป็นของการบริหารจัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาสู่ความเป็นเลิศ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้จัดการโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน หรือผู้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน และครูในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จำนวน 1,352 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ (1) แบบประเมินความต้องการจำเป็น เป็นการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงเรียนระหว่างระดับสภาพปัจจุบันกับระดับที่พึงประสงค์ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลในรูปแบบการตอบสนองคู่ จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ในช่วงระหว่าง 0.51 ถึง 0.83 และค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.95 (2) แบบบันทึกภาคสนาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ใช้สถิติ t-test independent และวิเคราะห์หาค่าความต้องการจำเป็น โดยใช้เทคนิค modified priority needs index (PNImodified)
ผลการวิจัยพบว่า
(1) สภาพในการบริหารจัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมโดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.13, S.D. = 0.78) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านผลลัพธ์ ( = 3.16, S.D. = 0.81) รองลงมา คือ ด้านการนำองค์กร ( = 3.15, S.D. = 0.82) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ( = 3.10, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณาสภาพที่พึงประสงค์ พบว่า สภาพที่พึงประสงค์ในการบริหารจัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาสู่ความเป็นเลิศในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.39, S.D. = 0.58) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านผลลัพธ์
( = 4.39, S.D. = 0.58) รองลงมา คือ ด้านการนำองค์กร ( = 4.41, S.D. = 0.60) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ( = 4.37, S.D. = 0.63) ตามลำดับ
(2) ผลการประเมินความต้องการจำเป็นในการบริหารจัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สู่ความเป็นเลิศโดยภาพรวม พบว่า ผู้บริหาร และครูมีความต้องการจำเป็นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างสภาพปัจจุบันกับสภาพที่พึงประสงค์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (PNIModified = 0.371) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสูงที่สุด คือ ด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (PNIModified = 0.40) รองลงมา คือ ด้านการวางแผน (PNIModified = 0.40) ด้านการปฏิบัติงาน(PNIModified = 0.407) และด้านที่มีความต้องการจำเป็นในการพัฒนาน้อยที่สุด คือ ด้านบุคลากร (PNIModified = 0.39) ตามลำดับ
|
คำสำคัญ |
ความต้องการจำเป็น การบริหารจัดการโรงเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ความเป็นเลิศ |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ |
มีผู้ประเมินอิสระ |
สถานภาพการเผยแพร่ |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
citation |
มี |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|