ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
การตรวจหาดีเอ็นเอแฝงบนรอยประทับริมฝีปากด้วยสีย้อมฟลูออเรสเซนส์ |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
29 มิถุนายน 2565 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
การประชุมวิชาการบัณฑิตศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 12 เรื่อง “บัณฑิตวิจัย สร้างสรรค์ และนวัตกรรม : การขับเคลื่อนสังคมเข้าสู่ยุคปกติใหม่ด้วยองค์ความรู้” |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร |
สถานที่จัดประชุม |
ออนไลน์ |
จังหวัด/รัฐ |
|
ช่วงวันที่จัดประชุม |
23 มิถุนายน 2565 |
ถึง |
24 มิถุนายน 2565 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
12 |
Issue (เล่มที่) |
1 |
หน้าที่พิมพ์ |
65-72 |
Editors/edition/publisher |
|
บทคัดย่อ |
การป้ายเก็บดีเอ็นเอแฝงตรงตำแหน่งที่มีรอยประทับริมฝีปากถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการวิเคราะห์ดีเอ็นเอเพื่อใช้ระบุเอกลักษณ์บุคคล หากไม่สามารถป้ายเก็บเซลล์ซึ่งเป็นแหล่งของดีเอ็นเอบนรอยประทับจะส่งผลต่อความสำเร็จของการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการตรวจหาดีเอ็นเอแฝงบนรอยประทับ
ริมฝีปากโดยใช้สีย้อมดีเอ็นเอฟลูออเรสเซนส์ DiamondTM Nucleic Acid (DD) ซึ่งเป็นสีย้อมที่สามารถผ่าน
เยื่อเมมเบรนเพื่อเข้าไปจับกับดีเอ็นเอในนิวเคลียส ทำให้ดีเอ็นแฝงปรากฏเป็นจุดเรืองแสง ผลการตรวจหาดีเอ็นเอแฝงจากอาสาสมัคร 6 คน (ชาย 3 หญิง 3) ที่ได้ประทับริมฝีปากบนสไลด์แก้ว โดยใช้สารละลาย DD เจือจาง 20 เท่า พบว่าเพศไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณจุดเรืองแสงที่ตรวจพบบนรอยประทับริมฝีปาก อย่างไรก็ตามริมฝีปากบน
มีแนวโน้มที่จะพบจำนวนของจุดเรืองแสงมากกว่าริมฝีปากล่าง เมื่อศึกษาความคงทนของดีเอ็นเอแฝงบนรอยประทับริมฝีปากที่มีอายุ 1, 3, 5, 7, 14, 21 และ 30 วัน (n =4) โดยทำการทดลองทั้งหมด 3 ซ้ำ พบว่าจำนวนจุดเรืองแสงที่ตรวจพบบนรอยประทับริมฝีปากมีปริมาณลดลงตามระยะเวลาที่มากขึ้น โดยปริมาณของจุดเรืองแสงที่ปรากฏ
บนรอยประทับริมฝีปากบนและรอยประทับริมฝีปากล่างลดลงจากวันแรกถึง 76% และ 70% ตามลำดับ
|
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Oral |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|