ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 ร่วมกับภาษีบำรุงท้องที่ 363
พ.ศ. 2508 และ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ด้วยหลักการภาษีที่ดี
กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
A Comparative Study of The Property and Land Tax (B.E.2475) Together with
The Local Maintenance Tax (B.E.2508) and, The Land and Building Tax (B.E.2562)
by The Principal of Good Taxation; Case study Nong Bua Sala Subdistrict
Administrative Organization, Maung District, Nakhon Ratchasima Province |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
23 พฤศจิกายน 2566 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
งานประชุมระดับชาติ โฮมภูมิ ครั้งที่ "โฮมดี มีแฮง-wee-Being Together" |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
สถานที่จัดประชุม |
คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
จังหวัด/รัฐ |
ขอนแก่ร |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
23 พฤศจิกายน 2566 |
ถึง |
13 ธันวาคม 2566 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
- |
Issue (เล่มที่) |
- |
หน้าที่พิมพ์ |
363-377 |
Editors/edition/publisher |
ผศ.ดร ธนสิทธิ์ จันทะรี |
บทคัดย่อ |
การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 ร่วมกับภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ด้วยหลักการภาษีที่ดี ผู้วิจัยเลือกกรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวสามารถเป็นตัวแทนของเมืองที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินหลากหลายประเภท ทำให้มีกรณีการศึกษาที่ครอบคลุมวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครบถ้วนทุกประเภท ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การพาณิชย์ การเกษตร และที่ดินว่างเปล่า
ที่สอดคล้องประเภทของการใช้ประโยชน์ที่ดิน ของพระราชบัญญัติภาษีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี พ.ศ. 2562 เพื่อให้ทราบแนวทางการลดผลกระทบทางลบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการนำภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี พ.ศ. 2562 รวมถึงเสนอแนะการปรับปรุงข้อจำกัดของภาษีในปัจจุบัน
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิดพื้นฐาน แนวทางการจัดเก็บภาษีและวิธีการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ จำนวนสามฉบับ (2) วิเคราะห์เปรียบเทียบศักยภาพการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ ระหว่างภาษีทั้งสามฉบับ ตามหลักการภาษีที่ดีสี่ประการของ Adam Smith (1973) และ (3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการลดผลกระทบด้านลบจากการใช้งานและเสนอแนวทางการปรับปรุงข้อจำกัดของภาษีฉบับปัจจุบัน (ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562) ให้สอดคล้องกับบริบทและเกิดประโยชน์ต่อพื้นที่กรณีศึกษา กลุ่มเป้าหมายของการวิจัย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีหน้าที่บทบาทเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และผู้มีหน้าที่เสียภาษี ในพื้นที่เป้าหมายของศึกษาคือ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
วิธีการศึกษา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพผสานกับการวิจัยเชิงปริมาณ การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสำรวจพื้นที่ การสังเกตการณ์ การจัดทำแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน และการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มเป้าหมาย แล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อหาผลลัพธ์การศึกษา โดยการเปรียบเทียบกับกรอบทฤษฎีในการวิจัยคือ หลักการภาษีที่ดีสี่ประการของ Adam Smith (1973) ) ประกอบด้วย หลักความแน่นอน หลักความเป็นธรรม หลักการอำนวยรายได้ และหลักความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
ผลการศึกษาพบว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 สอดคล้องหลักการของความแน่นอน แต่ไม่สอดคล้องเรื่องความเป็นธรรม การอำนวยรายได้ และความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติในบางประเด็น
ส่วนแนวทางการลดผลกระทบด้านลบจากการใช้ภาษีฉบับปัจจุบัน มีข้อเสนอแนะ 3 แนวทางคือ การจัดการช่องว่างของกฎหมายในการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การยกเลิกข้อกฎหมาย และการช่วยเหลือทางภาษีแก่กลุ่มเกษตรกรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
|
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Oral |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|