ชื่อบทความ |
ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดขอนแก่น |
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ |
26 มิถุนายน 2560 |
วารสาร |
ชื่อวารสาร |
วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ |
มาตรฐานของวารสาร |
TCI |
หน่วยงานเจ้าของวารสาร |
กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ |
ISBN/ISSN |
1906-2605 |
ปีที่ |
11 |
ฉบับที่ |
1 |
เดือน |
มกราคม-เมษายน |
ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ |
2560 |
หน้า |
|
บทคัดย่อ |
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Cross-Sectional Descriptive Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา คุณลักษณะส่วนบุคคลและปัจจัยการบริหารที่มีผลต่อการปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดขอนแก่น ประชากรที่ศึกษา คือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 248 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) จำนวน 164 คน และการสนทนากลุ่มจำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามและแนวทางในการสนทนากลุ่ม ซึ่งแบบสอบถามผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ทุกข้อคำถามมีค่าดัชนีความสอดคล้องมากกว่า 0.50 และวิเคราะห์หาความเที่ยงของแบบสอบถาม ได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาช 0.96 ดำเนินการเก็บข้อมูล ในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2560 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปในการหาค่าสถิติพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่ามัธยฐาน ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด สถิติอนุมานหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนโดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการศึกษาพบว่า ระดับปัจจัยการบริหาร และระดับการปฏิบัติงานของอำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดขอนแก่น ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.66 (S.D. = 0.45), 3.99 (S.D. = 0.46) ตามลำดับ คุณลักษณะส่วนบุคคล พบว่า ด้านอายุมีความสัมพันธ์ระดับต่ำทางลบกับการปฏิบัติงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r= -0.253, p-value = 0.001) สถานภาพสมรส(คู่) และระดับการศึกษา(ปริญญาโท) มีความสัมพันธ์ระดับต่ำทางบวกกับการปฏิบัติงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r= 0.196, p-value =0.012, r= 0.180, p-value = 0.0219 ตามลำดับ) และปัจจัยการบริหารมีความสัมพันธ์ระดับปานกลางทางบวกกับการปฏิบัติงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิต (r= 0.703, p-value < 0.001) ตัวแปรด้านการบริหารจัดการ ด้านเทคโนโลยี และด้านเวลา ซึ่งตัวแปรทั้ง 3 ตัวแปรสามารถร่วมกันพยากรณ์การปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดขอนแก่น ได้ร้อยละ 65.3 โดยผลการวิจัยในครั้งนี้ผู้บริหารสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
|
คำสำคัญ |
งานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ, ปัจจัยการบริหาร |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ |
มีผู้ประเมินอิสระ |
สถานภาพการเผยแพร่ |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
citation |
มี |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|