ชื่อบทความ |
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าในการรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อรายใหม่ จังหวัดบึงกาฬ |
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ |
19 กันยายน 2560 |
วารสาร |
ชื่อวารสาร |
วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
มาตรฐานของวารสาร |
TCI |
หน่วยงานเจ้าของวารสาร |
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
ISBN/ISSN |
|
ปีที่ |
10 |
ฉบับที่ |
3 |
เดือน |
กรกฎาคม-กันยายน |
ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ |
2560 |
หน้า |
|
บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบตัดขวาง เพื่อศึกษาความชุกและปัจจัยที่มีสัมพันธ์กับความล่าช้าในการรักษาของผู้ป่วยวัณโรคปอด เก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์และคัดลอกข้อมูลผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรักษา ในคลินิกวัณโรคโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดบึงกาฬ จำนวน 8 โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ถึง วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่ออธิบายลักษณะทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่ามัธยฐาน ควอไทล์ที่ 1, 3 วิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบตัวแปรเดี่ยว โดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยอย่างง่าย (Simple logistic regression) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบพหุตัวแปรโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุโลจิสติก (Multiple logistic regressions) แสดงผลด้วยค่า Adjusted odds ratio (ORadj) และช่วงความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95 (95%CI)
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 238 ราย มีความชุกของความล่าช้าที่เกิดจากผู้ป่วยมากกว่า 30 วัน พบ ร้อยละ 21.4 (95%CI = 16.1 – 29.7) ความล่าช้าที่เกิดจากระบบบริการสาธารณสุขของรัฐมากกว่า 7 วัน พบร้อยละ 19.7 (95%CI = 14.7 – 24.8) ผลจากการวิเคราะห์แบบพหุตัวแปร พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าที่เกิดจากผู้ป่วย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว (ORadj = 3.14, 95%CI = 1.39 – 7.10) มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ (ORadj = 6.27, 95%CI = 2.56 – 15.39) ระยะทางที่ผู้ป่วยเดินทางมาโรงพยาบาลที่รักษาวัณโรค ≤16 ก.ม. (ORadj = 6.33, 95%CI = 2.56 – 15.39) ใช้เวลาในการเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลนานว่า 30 นาที (ORadj = 11.05, 95%CI = 2.49 – 49.02) ผู้ป่วยที่ไม่มีบุคคลพามารักษาที่โรงพยาบาล (ORadj=2.52, 95%CI =1.12 – 5.68) ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าที่เกิดจากระบบบริการสาธารณสุขของรัฐ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ ≥3 ครั้ง (ORadj = 6.58, 95%CI = 1.61 – 26.85) สถานบริการแรกรับที่เป็น รพ.สต./คลินิก/ร้านขายยา (ORadj = 7.50, 95%CI = 3.41 – 17.90)
จากผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าในการรักษาวัณโรค เกิดจากปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านพฤติกรรมสุขภาพ ปัจจัยด้านการเดินทาง ปัจจัยด้านผลการตรวจรักษาที่วินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคปอด และปัจจัยด้านระบบการส่งต่อ ดังนั้น การพัฒนาประสิทธิภาพการตรวจวินิจฉัย และความร่วมมือของเครือข่ายพัฒนางานเชิงรุกในการค้นหา และพบผู้ป่วยที่มีอาการที่เข้าได้กับวัณโรค หรือสงสัยว่าตนเองป่วยเป็นวัณโรค พร้อมกับนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อลดความล่าช้าในการรักษาและการเกิดผู้ป่วยรายใหม่ในชุมชน
|
คำสำคัญ |
: วัณโรคปอดพบเชื้อรายใหม่,ความล่าช้าในการรักษา |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ |
มีผู้ประเมินอิสระ |
สถานภาพการเผยแพร่ |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
citation |
มี |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|