2012 ©
             Publication
Journal Publication
Title of Article ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าในการรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อรายใหม่ในจังหวัดเลย 
Date of Acceptance 22 April 2019 
Journal
     Title of Journal วารสารสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ ๗ ขอนแก่น 
     Standard TCI 
     Institute of Journal สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ ๗ ขอนแก่น 
     ISBN/ISSN  
     Volume 26 
     Issue
     Month กันยายน - ธันวาคม
     Year of Publication 2019 
     Page  
     Abstract การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์ภาคตัดขวาง (Cross-sectional study) เพื่อศึกษาหาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าในการรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อรายใหม่ และระยะเวลาของความล่าช้าที่เกิดจากตัวผู้ป่วยในจังหวัดเลย โดยกลุ่มตัวอย่างได้จาการวินิจฉัยและขึ้นทะเบียนรักษาวัณโรคในโรงพยาบาลรัฐ 14 แห่งในเขตจังหวัดเลย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2560–31 ธันวาคม 2560 มีการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบคัดลอกข้อมูลจากเวชระเบียนและใช้แบบสัมภาษณ์กับผู้ป่วย วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด วิเคราะห์ตัวแปรเดี่ยวด้วยสถิติวิเคราะห์ Chi-square test โดยใช้สถิติทดสอบ Simple logistic regression นำเสนอขนาดความสัมพันธ์โดยใช้ Crude odds ratio (OR) พร้อมช่วงความเชื่อมั่นที่ระดับ 95%CI วิเคราะห์ตัวแปรแบบพหุ โดยใช้สถิติ Multiple logistic regression analysis และนำเสนอค่า Adjusted odds ratio (ORadj) และ 95% CI ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรควัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อรายใหม่ จำนวน 259 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐทั้ง 14 แห่ง ในจังหวัดเลย อัตราความชุกของโรควัณโรคปอดเสมหะพบเชื้อรายใหม่ (Prevalence rate) ปี พ.ศ.2560 เท่ากับ 40.4 ต่อประชากรแสนคน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 65.6 อายุ 51–70 ปี ร้อยละ 43.2 ส่วนใหญ่ว่างงาน ร้อยละ 44 สัดส่วนการมารับการรักษาล่าช้าของผู้ป่วยตั้งแต่ 30 วันขึ้นไปร้อยละ 50.2 (130/259) โดยมีค่าเฉลี่ย 38.85 วัน สัดส่วนระยะเวลาความล่าช้าจากระบบบริการสาธารณสุขของรัฐตั้งแต่ 7 วันขึ้นไปร้อยละ 11.58 (30/259)มีค่าเฉลี่ย 5.29 วัน การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ตัวแปรเชิงเดี่ยว (Univariate analysis) พบปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความล่าช้าในการรักษาโรควัณโรคปอด ได้แก่ เขตที่พักอาศัยนอกเขตเทศบาล (OR=1.57;95%CI=1.05-2.82;p-value=0.03) รายได้เฉลี่ยต่อเดือน≤5,000 บาท (OR=2.22;95%CI=1.19–4.12; p-value=0.01) ระยะทางจากบ้านถึงโรงพยาบาลมากกว่า 10 กิโลเมตร (OR=2.15;95%CI=1.29-3.59; p-value=0.003) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ตัวแปรแบบพหุถดถอยลอจิสติก พบปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรักษาล่าช้าในผู้ป่วยวัณโรค ได้แก่ เพศชาย (ORadj=2.06; 95%CI=1.13-3.75) รายได้เฉลี่ย≤5,000 บาท (ORadj=0.34; 95%CI=0.17-0.65) ระยะเวลาที่สูบบุหรี่≥10 ปี (ORadj=0.40; 95%CI=0.22–0.75) ระยะทางจากบ้านถึงโรงพยาบาล≥10 กิโลเมตร (ORadj=2.16; 95%CI=1.26–3.68) จากผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าความล่าช้านั้นส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่ผู้ป่วยขาดความตระหนักในการเจ็บป่วยของตน ความไม่สะดวกในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐ ความมีการพัฒนาระบบสาธารณสุขของรัฐให้ได้มาตรฐานให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่ถูกต้องลดโอกาสในการมารับบริการล่าช้าฉะนั้นควรมีการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคโดยดำเนินงานเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ป่วยในชุมชน 
     Keyword วัณโรคปอด, ความล่าช้า, ความชุก 
Author
595110054-3 Miss PANJARAT KHAMMA [Main Author]
Public Health Master's Degree

Reviewing Status มีผู้ประเมินอิสระ 
Status ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ 
Level of Publication ชาติ 
citation true 
Part of thesis true 
Attach file
Citation 0