ชื่อบทความ |
ปัจจัยเชิงนิเวศวิทยาที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคแผลเป็ปติค ณ โรงพยาบาลจำปาสัก
ประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว
|
วัน/เดือน/ปี ที่ได้ตอบรับ |
17 พฤษภาคม 2562 |
วารสาร |
ชื่อวารสาร |
วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ |
มาตรฐานของวารสาร |
TCI |
หน่วยงานเจ้าของวารสาร |
สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
ISBN/ISSN |
|
ปีที่ |
37 |
ฉบับที่ |
4 |
เดือน |
ตุลาคม - ธันวาคม |
ปี พ.ศ. ที่พิมพ์ |
2562 |
หน้า |
|
บทคัดย่อ |
การศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบ Case-control study เพื่อหาปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดแผลเป็ปติค ในผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลจำปาสัก ประเทศ ส.ป.ป. ลาว ดำเนินการศึกษาระหว่างเดือน สิงหาคม 2561 ถึงเดือน ตุลาคม 2561 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ป่วย PUD และกลุ่มผู้ป่วย Non-PUD กลุ่มละ 48 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกข้อมูลจากเวชระเบียนและแบบสอบถามปัจจัยเสี่ยงเชิงนิเวศวิทยา วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปและลักษณะของปัจจัยต่างๆ โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิด PUD โดยใช้ simple และ multiple logistic regression ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผลเป็ปติคมี 3 ระดับ คือ ปัจจัยระดับบุคคล ได้แก่การติดเชื้อ H. pylori (OR=4.88, 95% CI: 1.87-12.73, p=.001) การใช้ยา NSAIDs (OR=107.81, 95% CI: 12.64-919.11, p<0.001) การดื่มแอลกอฮอล์ (OR=31.61, 95% CI: 3.38-295.66, P=.002) และการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา (OR=45.22, 95% CI: 4.84-422.05, p=.001) 2) ปัจจัยระหว่างบุคคล ได้แก่การมีเพื่อนสนิทที่ยอมรับพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ (OR=7.37, 95% CI: 1.47-36.87, p=.01) และการมีครอบครัวไม่มีข้อห้ามในการดื่มแอลกอฮอล์ (OR= 3.98, 95% CI: 1.24-12.21, p=.02) และ 3) ปัจจัยด้านสังคม วัฒนธรรมและกฎหมาย ได้แก่ การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังเวลา 16.00 น (OR=5.02, 95% CI: 1.42-17.72, p=.01) การป้องกันการเกิด PUD อย่างมีประสิทธิภาพจึงควรดำเนินการให้ครอบคลุมปัจจัยเสี่ยงทั้ง 3 ระดับนี้ |
คำสำคัญ |
ปัจจัยเชิงนิเวศวิทยา, โรคแผลเป็ปติค. ปัจจัยเสี่ยง |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ |
มีผู้ประเมินอิสระ |
สถานภาพการเผยแพร่ |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
วารสารมีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
citation |
มี |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|