Title of Article |
ความชุกของภาวะโลหิตจางและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริจาคโลหิตได้ในศึกษาหญิงระดับอุดมศึกษา จังหวัดนครราชสีมา |
Date of Acceptance |
13 January 2020 |
Journal |
Title of Journal |
วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
Standard |
TCI |
Institute of Journal |
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
ISBN/ISSN |
|
Volume |
13 |
Issue |
2 |
Month |
เมษายน-มิถุนายน |
Year of Publication |
2020 |
Page |
- |
Abstract |
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความชุกภาวะโลหิตจางและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริจาคโลหิตได้ ในนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหญิงที่สมัครใจบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย จำนวน 279 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ประกอบด้วย 4 ส่วน ดังนี้ 1) ข้อมูลทั่วไปปัจจัยส่วนบุคคล 2) ปัจจัยด้านสุขภาพ 3) ปัจจัยด้านการบริโภคอาหาร 4) ค่าความเข้มข้นของสารสีแดงในเลือด (ฮีโมโกลบิน) และผลการบริจาคโลหิต โดยผู้มีภาวะโลหิตจางกำหนดให้ Hb < 12 g/dl และผู้ที่สามารถบริจาคหิตได้ Hb ตั้งแต่ 12.5 g/dl วิเคราะห์หาความสัมพันธ์เพื่อหาปัจจัย ที่มีความสัมพันธ์กับการบริจาคโลหิตได้ ด้วยสถิติทดสอบไคสแคว์ สถิติ Fisher exact test และวิเคราะห์ถดถอย แบบ Multiple logistic regression ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์แบบขจัดออกทีละตัวแปร (Backward elimination) โดยคัดเลือกตัวแปรจาก การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ตัวแปรที่มีค่า p-value < 0.05 นำเสนอค่า adjusted OR และช่วงเชื่อมั่น 95% CI
ผลการศึกษาพบความชุกของภาวะโลหิตจางในนักศึกษาหญิงระดับอุดมศึกษาเท่ากับร้อยละ 25.4 อัตราการบริจาคโลหิตได้ ร้อยละ 64.5 จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) และการบริโภคเมล็ดงามีความสัมพันธ์กับการบริจาคโลหิตได้ในนักศึกษาหญิงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value = 0.010, p-value = 0.024, ตามลำดับ) โดยผู้ที่มีน้ำหนักเกิน (BMI 23 กก./ตร.ม ขึ้นไป) มีโอกาสบริจาคเลือดได้ 1.99 เท่า (ORadj = 1.99, 95% CI; 1.18 – 3.38) เมื่อเทียบกับผู้ที่มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 23 กก./ตร.ม และ ผู้ที่รับประทานเมล็ดงามากกว่าหรือเท่ากับ 1 – 3 ครั้ง/สัปดาห์ มีโอกาสบริจาคโลหิตได้เป็น 2.59 เท่า (ORadj =2.59 , 95% CI; 1.13 – 5.91) เมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานเมล็ดงาน้อยกว่า 1 – 3 ครั้ง/สัปดาห์ จากผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ว่า หนึ่งในสี่ของนักศึกษาหญิงมีภาวะโลหิตจาง สองในสามสามารถบริจาคโลหิตได้ โดยดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) และการรับประทานเมล็ดงามีความสัมพันธ์กับการบริจาคโลหิตได้ ดังนั้น เพื่อลดภาวะโลหิตจาง และเพิ่มจำนวนผู้ที่สามารถบริจาคโลหิตได้ มากขึ้นควรสนับสนุนการให้ความรู้ด้านสุขภาพ และการเลือกบริโภคอาหาร รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง อาหารที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก และอาหารที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก นอกจากนี้ ควรให้ยาเสริมธาตุเหล็กกับนักศึกษาที่มีภาวะโลหิตจาง ซึ่งนอกจากช่วยลดอัตราการเกิดภาวะโลหิตจางแล้วยังเพิ่มจำนวนผู้ที่สามารถบริจาคโลหิตได้มากขึ้น ส่งผลให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยมีเพิ่มขึ้น
|
Keyword |
ภาวะโลหิตจาง การบริจาคโลหิตได้ นักศึกษาหญิงระดับอุดมศึกษา |
Author |
|
Reviewing Status |
มีผู้ประเมินอิสระ |
Status |
ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ |
Level of Publication |
ชาติ |
citation |
false |
Part of thesis |
true |
Attach file |
|
Citation |
0
|
|