ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
ตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงอะลูมิเนียมแคดเมียมซัลไฟด์เลเยอร์เมกะดิไอด์สำหรับการสลายสีย้อม |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
23 มิถุนายน 2565 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 3 |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ |
สถานที่จัดประชุม |
อาคารจุฬาภรณ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (รูปแบบการนำเสนองานออนไลน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) |
จังหวัด/รัฐ |
เชียงใหม่ |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
17 มีนาคม 2565 |
ถึง |
17 มีนาคม 2565 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
3 |
Issue (เล่มที่) |
1 |
หน้าที่พิมพ์ |
376-389 |
Editors/edition/publisher |
|
บทคัดย่อ |
งานวิจัยนี้ได้สังเคราะห์อนุภาคแคดเมียมซัลไฟด์และอะลูมิเนียมแคดเมียมซัลไฟด์อัตราส่วนโมลของอะลูมิเนียมต่อแคดเมียมเท่ากับ 3 ต่อ 1 ในเลเยอร์เมกะดิไอด์ โดยปฏิกิริยาการแลกเปลี่ยนไอออนของ Cd2+ และ/หรือ Al3+ และปฏิกิริยาการเตรียมโลหะซัลไฟด์ภายในช่องว่างระหว่างเลเยอร์ของเมกะดิไอด์และทำการพิสูจน์เอกลักษณ์ของวัสดุไฮบริดที่เตรียมได้ด้วยเทคนิคการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์สำหรับผง ฟูเรียร์ทรานส์ฟอร์มอินฟราเรดสเปกโทรสโกปี ยูวีสิเบิลและโฟโตลูมิเนสเซนส์ สเปกโทรสโกปี การดูดซับและการคายซับของแก๊สไนโตรเจน และกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องผ่าน จากรูปแบบการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์สำหรับผงของวัสดุไฮบริดที่สังเคราะห์ได้ พบว่า มีการขยายของช่องว่างระหว่างเลเยอร์ประมาณ 0.42 นาโนเมตร จากอินฟราเรดสเปกตราพบพีคที่สอดคล้องกับการสั่นของ Cd-S ในช่วงเลขคลื่น 705-708 cm-1 จากการขยายของเลเยอร์ และการปรากฏของพีคการสั่นของ Cd–S แสดงว่าเกิดอินเตอร์คาเลชันของอนุภาคแคดเมียมซัลไฟด์และอะลูมิเนียมแคดเมียมซัลไฟด์ในเลเยอร์เมกะดิไอด์ และรูปถ่ายจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องผ่าน ยังช่วยยืนยัน การเกิดอนุภาคของแคดเมียมซัลไฟด์ที่มีกระจายตัวที่ดีในเลเยอร์ จากสเปกตรัมของการดูดกลืนแสงและ/หรือสเปคตรัมการเปล่งแสง พบว่า ค่าเริ่มต้นของการดูดกลืนแสงและค่าการเปล่งแสงที่ความยาวคลื่นสูงสุดของวัสดุไฮบริดที่เตรียมได้เลื่อนไปที่ความยาวคลื่นต่ำลง เมื่อเปรียบเทียบกับแคดเมียมซัลไฟด์แสดงว่าเกิดอนุภาคแคดเมียมซัลไฟด์ขนาดเล็กในวัสดุไฮบริด ซึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์ควอนตัมคอนไฟน์เมนต์ การศึกษาการเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงในการสลายสีย้อมโรดามีน-6-จี ภายใต้แสงที่ตามองเห็น โดยใช้แคดเมียมซัลไฟด์ในเมกะดิไอด์และอะลูมิเนียมแคดเมียมซัลไฟด์ในเมกะดิไอด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา พบว่าวัสดุไฮบริดมีประสิทธิรูปในการสลายสีย้อมได้ดีกว่าการใช้แคดเมียมซัลไฟด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาและยังพบว่าแคดเมียมซัลไฟด์ในเมกะดิไอด์ และอะลูมิเนียมแคดเมียมซัลไฟด์ในเมกะดิไอด์ สามารถสลายสีย้อมโรดามีน-6-จี ได้ถึงร้อยละ 13.8 และ 15.9 ตามลำดับ ในขณะที่แคดเมียมซัลไฟด์บริสุทธิ์สามารถสลายสีย้อมโรดามีน-6-จี ได้เพียงร้อยละ 6.1 ภายหลังฉายแสงช่วงที่ตามองเห็นเป็นเวลา 360 นาที ในขณะที่การศึกษาการสลายสีย้อมคองโกเรดพบว่าแคดเมียมซัลไฟด์สามารถสลายสีย้อมได้ดีกว่าวัสดุไฮบริด เนื่องจากสีย้อมมีประจุเป็นลบเช่นเดียวกันเลเยอร์เมกะดิไอด์ทำให้สีย้อมไม่สามารถดูดซับไว้บนพื้นผิวของวัสดุไฮบริดได้ส่งผลให้ประสิทธิรูปในการย่อยสลายลดลง |
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Poster |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ได้รับรางวัล |
ชื่อรางวัล |
การนำเสนอผลงานวิจัยระดับดีเยี่ยม ประเภทการนำเสนอแบบโปสเตอร์ กลุ่มเคมี และนวัตกรรมเคมีอุตสาหกรรม |
ประเภทรางวัล |
รางวัลด้านวิชาการ วิชาชีพ |
หน่วยงาน/องค์กรที่มอบรางวัล |
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ |
วัน/เดือน/ปี ทีด้รับรางวัล |
17 มีนาคม 2565 |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|