ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
การเปลี่ยนแปลงของวงมโหรีโคราช |
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
15 มิถุนายน 2561 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติเครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ครั้งที่ 18 และลำปางวิจัย ครั้งที่ 4 |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง |
สถานที่จัดประชุม |
อาคารโอฬารโรจน์หิรัญ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง |
จังหวัด/รัฐ |
ลำปาง |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
19 กรกฎาคม 2561 |
ถึง |
20 กรกฎาคม 2561 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
18 |
Issue (เล่มที่) |
4 |
หน้าที่พิมพ์ |
4-18 |
Editors/edition/publisher |
|
บทคัดย่อ |
บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของวงมโหรีโคราชจังหวัดนครราชสีมา โดยใช้วิธีการศึกษาทางดนตรีวิทยาเก็บรวบรวมข้อมูลจากภาคสนามนำมาตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและนำเสนอด้วยวิธีพรรณวิเคราะห์
พบว่าวงมโหรี หมายถึงเครื่องดนตรีที่ใช้ในการประโคมแห่นครราชสีมาเป็นที่ตั้งของปราสาทในอารยะธรรมขอม ต่อมายังเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของกรุงศรีอยุธยา นครราชสีมาจึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมทางดนตรีจากกลุ่มวัฒนธรรมกลุ่มใหญ่ 2 กลุ่มวัฒนธรรม คือ วัฒนธรรมดนตรีจากเขมร และวัฒนธรรมจากภาคกลาง ซึ่งได้ประสมวงดนตรีรูปแบบเฉพาะท้องถิ่นเรียกว่า “วงมโหรีโคราช” มีลักษณะเป็นวงดนตรีประโคมแห่มาตั้งแต่ยุคโบราณพัฒนาการ และการเปลี่ยนแปลงของวงมโหรีโคราชจากการศึกษาพบการปรับเปลี่ยนรูปแบบตามสภาพสังคมอยู่เสมอ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ยุคแรกเริ่มมีเครื่องดนตรีประโคมที่พบ จำนวน 6 ชิ้น ต่อมาในสมัยอยุธยา ปรากฏมีเครื่องดนตรี 11 ชิ้น กระทั่งเข้าสู่ช่วงปี พ.ศ.2500-ปัจจุบัน มีการพัฒนาวงมโหรีโคราชดั้งเดิมเปลี่ยนเครื่องดนตรีใหม่ ตัดเครื่องดนตรีดั้งเดิมจนหมด เหลือไว้เพียง “ซอกลาง” เรียกว่า “วงมโหรีโคราชประยุกต์
|
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Poster |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|