ชื่อบทความที่เผยแพร่ |
ผลการตรวจให้คะแนนของแบบสอบอัตนัย เมื่อกลุ่มผู้ตรวจและรูปแบบการตรวจที่ต่างกัน
The Results of Scoring of Essay Test by Different Groups of Rater and Scoring Designs
|
วัน/เดือน/ปี ที่เผยแพร่ |
21 กุมภาพันธ์ 2562 |
การประชุม |
ชื่อการประชุม |
การประชุมสัมมนาวิชาการการวัดผล ประเมินผลและวิจัยทางการศึกษาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 27 |
หน่วยงาน/องค์กรที่จัดประชุม |
มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(วิทยาเขตปัตตานี) |
สถานที่จัดประชุม |
โรงแรมบีพี สมิหลาบีช สงขลา |
จังหวัด/รัฐ |
จังหวัดสงขลา |
ช่วงวันที่จัดประชุม |
20 กุมภาพันธ์ 2562 |
ถึง |
22 กุมภาพันธ์ 2562 |
Proceeding Paper |
Volume (ปีที่) |
2562 |
Issue (เล่มที่) |
1 |
หน้าที่พิมพ์ |
51 |
Editors/edition/publisher |
สาขาวิชาการประเมินผลและวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ |
บทคัดย่อ |
ผลการตรวจให้คะแนนของแบบสอบอัตนัย เมื่อกลุ่มผู้ตรวจและรูปแบบการตรวจที่ต่างกัน
The Results of Scoring of Essay Test by Different Groups of
Rater and Scoring Designs
ดรุณี อภัยกาวี1 Darunee Apaikawee1
ประกฤติยา ทักษิโณ2 Prakittiya Tuksino2
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะการตรวจให้คะแนนของผู้ตรวจที่มีรูปแบบการตรวจ ให้คะแนนต่างกัน และ 2) เพื่อศึกษาความเที่ยงระหว่างผู้ตรวจ ค่าความแปรปรวนขององค์ประกอบและ ค่าสัมประสิทธิ์การสรุปอ้างอิงของคะแนนแบบสอบอัตนัย เมื่อกลุ่มผู้ตรวจและรูปแบบการตรวจให้คะแนนต่างกันกลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้ตอบข้อสอบ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 32 คน และ กลุ่มที่ 2 ผู้ตรวจให้คะแนนเป็นนักศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตร์ จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบอัตนัยการคิดทางคณิตศาสตร์ จำนวน 3 ข้อ ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสรุปอ้างอิงความน่าเชื่อถือของผล การวัด (Generalizability Theory) และโมเดลหลายองค์ประกอบของราส์ช (Many Facet Rasch Model) ผลการวิจัยพบว่า
1. ลักษณะการให้คะแนนของผู้ตรวจ พบว่า กลุ่มผู้ตรวจส่วนใหญ่ให้คะแนนที่ไม่มีแบบแผน จำนวน 9 คน (ผู้ตรวจคนที่ 4 , 6 , 8 , 9 , 11 , 12 , 13 , 14 และ 15) และผู้ตรวจที่มีแนวโน้มให้คะแนนค่ากลาง จำนวน 3 คน (ผู้ตรวจคนที่ 3 , 5 และ 7) และผู้ตรวจที่ผู้ตรวจที่มีความแม่นยำในการให้คะแนน จำนวน 3 คน (ผู้ตรวจ คนที่ 1 , 2 และ 10) เมื่อพิจารณาความเที่ยงระหว่างผู้ตรวจให้คะแนนข้อสอบ ทั้ง 3 ข้อ ถือว่ามีความสอดคล้องอยู่ในระดับดี (ICC =0.90)
2. ค่าองค์ประกอบของความแปรปรวน จากรูปแบบการตรวจข้อสอบทุกข้อของผู้สอบทุกคน [P x I x R ] พบว่า แหล่งความแปรปรวนที่มากที่สุด คือ แหล่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอบกับผู้ตรวจ (PR) และแหล่งความแปรปรวนที่น้อยที่สุด คือ แหล่งผู้ตรวจ (R) ทุกลักษณะกลุ่มผู้ตรวจ และ รูปแบบการตรวจข้อสอบบางข้อของผู้สอบทุกคน [P x (I : R)] พบว่า แหล่งความแปรปรวนที่มากที่สุด คือ แหล่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอบกับผู้ตรวจ (PR) รองลงมาคือ แหล่งผู้ตรวจ(R)
3. ค่าสัมประสิทธิ์การสรุปอ้างอิง (ρ_Rel^2) จากรูปแบบการตรวจข้อสอบบางข้อของผู้สอบทุกคน [P x (I : R)] มีค่าสูงกว่ารูปแบบการตรวจข้อสอบทุกข้อของผู้สอบทุกคน [P x I x R]
คำสำคัญ : ทฤษฎีการสรุปอ้างอิงความน่าเชื่อถือของผลการวัด , ลักษณะการตรวจให้คะแนน , แบบสอบอัตนัย
1 นักศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สาขาวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
|
ผู้เขียน |
|
การประเมินบทความ (Peer Review) |
มีผู้ประเมินอิสระ |
มีการเผยแพร่ในระดับ |
ชาติ |
รูปแบบ Proceeding |
Full paper |
รูปแบบการนำเสนอ |
Oral |
เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ |
เป็น |
ผลงานที่นำเสนอได้รับรางวัล |
ไม่ได้รับรางวัล |
แนบไฟล์ |
|
Citation |
0
|
|